แพลนเที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี นิกโก้ เซนได โตเกียว

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในลิสต์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นต้องแพลนไปให้ได้ เพราะคุณจะได้สัมผัสธรรมชาติที่งดงามอันน่าทึ่ง สีสันของธรรมชาติที่ไล่เฉด เหลือง ส้ม แดง น้ำตาลบนภูเขา น้ำตก และและในเมืองและทุกที่ในญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ความมีสเนห์อีกแบบก็เริ่มขึ้น

วันนี้เบค่อนทริปเลยขอมาแชร์แพลนเที่ยวฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่า เมืองที่ได้รับความนิยมในการเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีก็คือ นิกโก้ เซนได ที่สามารถเดินทางไปชมวิวได้ง่ายๆ และถ้าอยากชมความสวยงามของใบไม้แดงแบบสุดๆ แนะนำว่าให้ไปช่วงเดือน ต.ค.เท่านั้นนะค้าบ

แต่ก่อนอื่น มาเริ่มกันที่ข้อมูลเบื้องต้นของประเทศญี่ปุ่นกันก่อน คือ เวลา Time Zone ของญี่ปุ่นห่างจากประเทศไทย 2 ชั่วโมง และ เรทค่าเงินเยนในช่วงนี้ 1 เยนประมาณ = 0.23-0.25 บาท แต่ขอบอกว่าต้องเช็คทุกครั้งก่อนเดินทางน้าา เพราะค่าเงินเยนช่วงนี้ขึ้นลงสวิงมากๆ

แพลนนี้ จะถูกวางแผนให้ไว้ บินประมาณช่วงค่ำ ซึ่งจะบินลงสนามบินนาริตะ โดยประมาณช่วงเช้าของวันที่แรกของแพลน มาเริ่มแพลนกันเลย ซึ่งน้องเบค่อนแนะนำว่า ให้เลือกไฟลท์บินช่วงประมาณ 21.00 น. (เวลาไทย) เป็นต้นไป เพื่อไปถึงญี่ปุ่น สนามบินนาริตะ (Narita International Airport) สักประมาณไม่เกิน 12.00 น. (เวลาท้องถิ่นญี่ปุ่น) 

วันแรก – เดินทางถึง ญี่ปุ่น มุ่งสู่ นิกโก้ Nikko

วันแรกเดินทางสู่ เมืองนิกโก้ (Nikko) ภูมิภาคคันโต (Kanto Region) เมืองที่มีความสวยงามที่สุดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนิกโกะ ธรรมชาติและเทือกเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยสีสันของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีเขียวของเดือนฤดูร้อนและสีส้มแดงของฤดูใบไม้ร่วงทำให้นิกโกะดูสวยงาม อากาศที่เย็นสบาย ทำให้บรรยากาศของเมืองนี้ดูเงียบสงบและอบอุ่นโรแมนติก นอกจากนี้ สถาปัตยกรรมโบราณที่เก่าแก่ยังเพิ่มเสน่ห์ให้นิกโก้อีกด้วย เป็นการผสมผสานความงดงามของธรรมชาติกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ทันสมัยให้กลายเป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

มาเริ่มแพลนกันที่เดินทางสู่ คาวาโกเอะ (Kawagoe) เป็นย่านเมืองเก่าที่น่ารักและอบอุ่น มีชื่อเสียงด้านการเก็บรวบรวมสถาปัตยกรรมยามโบราณและร้านค้าย่านโบราณ แนะนำว่าเดินเที่ยวชมบรรยากาศได้ตามสบายเลย เพราะที่นี่มี Kawagoe Kita-in Temple เป็นวัดเก่าแก่ประจำเมืองซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี ให้ได้ถ่ายรูปบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีได้ด้วย หรือจะเดินเที่ยวชมย่านถนน Kurazukuri หาของอร่อยทานได้ตามสบายเลยค้าบ

จากนั้นก็ไปเก็บจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อกันเลย ที่ ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ถูกขึ้นเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกเช่นเดียวกับศาลเจ้าและวัดหลายแห่งในนิกโก้เลย

จากนั้น เก็บได้อีกจุด ไฮไลท์ธรรมชาติที่สวยงามของนิกโก้ นั่นก็คือ น้ำตกเคงอน (Kegon Waterfall) ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และสวยงามติดอันดับน้ำตก TOP 3 ของญี่ปุ่น แล้วยิ่งมีภาพของใบไม้เปลี่ยนสีที่ไล่เฉดสลับกัน สร้างมิติให้อารมณ์ได้รู้สึกผ่อนคลายแน่นอน

แนะนำเลยว่า มานิกโก้ทั้งที ต้องได้นอน ออนเซ็น ที่ได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ กับใบไม้เปลี่ยนสี อากาศที่เย็นสบาย แค่ได้แช่ออนเซ็นกับคนที่คุณรัก ก็ฟินสุดๆเลยนะคร้าบบ

วันที่สอง – เก็บจุดไฮไลท์นิกโก้ Nikko

วันรุ่งขึ้น ตามเก็บอีก 2 จุดชมใบไม้เปลี่ยน เริ่มที่ จุดชมวิวยอดฮิต สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) เป็นสะพานไม้ชื่อดังของศาลเจ้านิกโก้ฟุตาระซาน ที่ทำจากไม้ที่เคลือบด้วยยางไม้สีแดง ด้านล่างเป็นแม่น้ำไดยากาวะ ความสวยงามของบรรยากาศและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้ที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย

และอีกจุดไฮไลท์ คือ ทะเลสาบชูเซนจิ (Chuzenji Lake) เป็นทะเลสาบเขื่อนที่ตั้งอยู่บนภูเขานิกโก้ เป็นทะเลสาบที่สวยงามและมีวิวทิวทัศน์ที่กว้างไกล ที่นี่มีกิจกรรมน่าสนใจต่างๆ บริเวณริมทะเลสาบ เช่น เดินเล่น เรือถีบ ส่วนบริเวณท่าเรือที่เรือใหญ่จะมาจอดเทียบ สามารถล่องเรือชมวิวของใบไม้เปลี่ยนสีได้แบบอิ่มใจมากๆ

กลับเข้าที่พัก เพื่อเตรียมพร้อมวันรุ่งขึ้นไปตะลุย เซนไดกัน

วันที่สาม – เซนได Sendai

เดินทางเข้าสู่ เมืองเซนได Sendai ใช้ระยะเวลาประมาณ 3.30 ชั่วโมง อยู่ในภูมิภาคโทโฮกุ (Tohoku Region) ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและเป็นที่น่าสนใจในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นอย่างมากเช่นเดียวกับนิกโก้ เซ็นไดได้ขึ้นชื่อว่า “เมืองแห่งต้นไม้” เป็นเมืองที่มีวิวธรรมชาติ ต้นไม้ ทะเล ภูเขา ผสมผสานกับตัวเมืองได้อย่างลงตัว ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง สามารถดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติแบบนี้ได้ แนะนำเลยใครที่อยากเห็นใบเมเปิ้ลแบบจัดเต็ม ห้ามพลาดกับเซนไดนะค้าบ

ในการเที่ยวเซนได วันที่สามนี้ แนะนำว่า ไปเริ่มกันที่ ปราสาทเซนได (Sendai-jo / Aoba-jo) เป็นโบราณสถานแห่งชาติของเมืองเซนได ซึ่งตลอดระหว่างทางขึ้นปราสาทก็จะมีวิวของใบเมเปิ้ลสีแดง และทัศนยภาพของใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมตลอดทางอีกด้วย

และปิดท้ายเมืองเซนได ด้วยการชมวิวเมืองทั้งเมืองที่ Sendai Daikannon (เซ็นได ไดแคนนอน) เป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่น ซึ่งภายในองค์เจ้าแม่กวนอิมจะสามารถขึ้นลิฟต์ชมทิวทัศน์ของเมืองเซนไดทั้งเมืองได้เลย และยิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี้ ภาพบรรยากาศของที่นี่จะสวยงามมาก องค์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวสูงตะหง่านท่ามกลางต้นไม้สีส้มแดง ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไว้ชมความสวยงามของบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองเซนไดได้แบบเต็มตา

วันที่สี่ – มุ่งสู่โตเกียว

เที่ยวชม Matsushima Bay (อ่าวมัทสึชิมะ) เป็นหนึ่งในสิบแปดสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมของประเทศญี่ปุ่น มีเกาะหินที่มีความงดงามและเคลือบไปด้วยตำนานที่น่าสนใจอย่างมาก วิวของทะเลสาบน้ำจืดนี้ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากเนื่องจากความสวยงามและความเงียบสงบ

จากนั้น นั่งรถไฟชินคังเซน จากเซนได เข้าสู่ โตเกียว โดยจะใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง การนั่งรถไฟชินคังเซนจะมีสถานีปลายทางที่สถานีโตเกียว ซึ่งเป็นสถานีใหญ่และสะดวกในกรุงโตเกียวค้าบ

วันที่ห้า – เก็บโตเกียว

วันที่ห้านี้ เก็บไฮไลท์โตเกียวกันสักหน่อย อยากไปไหนจัดได้เลย แนะนำว่า จะหนึ่งวันเต็มที่ TOKYO DISNEY LAND ก็ได้ หรือ จะช็อปปิ้งจุกๆ จัดได้เลยค้าบ

(สามารถดูแพลนเที่ยวโตเกียวได้ที่นี่)

วันที่หก – วันสุดท้าย

วันสุดท้ายก่อนบินกลับไทย แนะนำว่าให้แวะ วัดอาซาคุซะ (Asakusa Temple) หรือเรียกอีกชื่อว่า วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) สักการะ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนกลับ ขอแนะนำว่าให้เลือกไฟลท์กลับตอนช่วงเย็น จะได้ไม่ต้องรีบร้อนมากค้าบ

เป็นไงกันบ้างค้าบ แพลนเที่ยวฤดูใบไม้เปลี่ยนสี นิกโก้ เซนได โตเกียว 6 วันนี้ เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นน้า หากใครสนใจทริปชิลๆ สบายๆ ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและงบประมาณของตนเอง ลองให้น้องเบค่อนทริปออกแบบทริปให้เลยค้าบ แน่นอนว่า … เที่ยวสบาย แถมได้ครบ จบ ฟิน ประทับใจแน่นอน ….

Bacontrip ทัวร์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ทุกเส้นทางของคุณมีแต่ความสุข และเรื่องราวความประทับใจ … การท่องเที่ยวจะเยียวยาทุกสิ่ง …